องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งตาลอง 
อบค.โป่งตาลอง
“ชุมชนน่าอยู่ สิ่งแวดล้อมดี ประเพณีดีงาม คนมีคุณภาพและการบริหารจัดการที่ดีแบบมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน”

แหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยว

      แหล่งท่องเที่ยวหลักที่มีศักยภาพเหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ในการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบล โป่งตาลองสามารถฟื้นฟูพัฒนาและปรับปรุงเป็นพื้นที่รองรับการบริหารการท่องเที่ยวได้ แก่น้ำตกผากระดาษ น้ำตกด่านช้าง น้ำตกมะนาวยักษ์ ถ้ำสระน้ำใส พระนาคปรกองค์ใหญ่ ถ้ำค้างคาว   ไร่พญาเย็นเขาใหญ่ วัดมกุฏคีรีวัน จากการสำรวจพื้นที่จึงสามารถวิเคราะห์สรุปได้ว่าศักยภาพของการพัฒนาการท่องเที่ยวในตำบลโป่งตาลองมีแหล่งท่องเที่ยวหลักดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้

1. น้ำตกผากระชาย เป็นน้ำตกที่มีขนาดกลาง เกิดจากลำห้วยโกรกเด้ความสูงลาดลำห้วยประมาณ 15 เมตร ไหลลาดไปตามพื้นที่หินเหมาะสำหรับการผจญภัยค้างแรมในป่าอยู่ห่างจากวัดมกุฏคีรีวันประมาณ 5 กิโลเมตรตามแนวป้องกันไฟป่า

2. น้ำตกมะนาวยักษ์ มีลักษณะเป็นแก่งยาวสามารถลงเล่นน้ำได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรจากลานจอดรถเส้นทางเหนือน้ำตกมะนาวยักษ์สามารถเดินทางสู่เขาแหลมออกปลายทางน้ำตกเหวสุวัต

3. น้ำตกผาด่านช้าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของหน่วยตะเคียนงาม เขาใหญ่ 3 ตำบลโป่งตาลองน้ำตกด้านช้างเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยสามารถเที่ยวแบบไป-กลับได้ในวันเดียวหรือพักแรมในป่าเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ สัตย์ป่านานาชนิด เช่นช้างหมี นกเงือก ผีเสื้อ สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปีแต่จะสวยก็ต้องมาเที่ยวตอนปลายฝนต้นหนาวเพราะน้ำตก จะสวยมากระยะทางจากด่านเก็บเงินเขาใหญ่เลี้ยวซ้ายประมาณ 20 กิโลเมตร

4. วัดถ้ำสระน้ำใส  ตั้งอยู่ในบริเวณวัดสระน้ำใสหมู่ที่ 7 ตำบลโป่งตาลองมีความยาวประมาณ 100 เมตร ประกอบด้วยหินย้อย หินงอกที่สวยงาม และพบวัตถุโบราณที่เก่าแก่สมัยบรรพบุรุษและมีสระน้ำธรรมชาติที่เกิดจากธรรมชาติที่น้ำไม่เคยแห้งเลยในบริเวณวัดพบถ้ำมีด้วยกัน 3 ถ้ำ

    ถ้ำที่ 1 เป็นถ้ำใหญ่เดิมแต่ก่อนไม่มีบันไดลงภายในถ้ำชาวบ้านจึงช่วยกันทำบันไดเป็นบันลงชั่วคราวลึกระาณ 20 เมเมื่อลงไปในถ้ำก็จะพบศิวลึงค์ที่มีขนาดใหญ่กว่าที่อำเภอพิมายชิ้นแรกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ชิ้นที่สองเป็นรูปแปดเหลี่ยมชิ้นที่สามเป็นรูปทรงกลมซึ่งมีความโดดเด่นและสวยงามมาก

    ถ้ำที่ 2 มีความลึกประมาณ 10 เมตร สามารถเดินทะลุไปหากันได้และมีหินงอกหินย้อยที่มีหลากหลายที่แตกต่างกันออกไป

    ถ้ำที่ 3 ปัจจุบันยังไม่ได้บูรณะเพราะมีความลึกมากแต่ยังคงความสวยงามตามแบบธรรมชาติสิ่งที่ค้นพบในถ้ำ คือศิวลึงค์เป็นแบบจำลองเป็นทองสำริด คันธนูสำริดแจกันโบราณเป็นทองสำริด ตะกั่วเถื่อนหนักประมาณ 5 กิโลกรัม เป็นเงิน เครื่องเหล็ก บาตรพระ ขันน้ำ พานรองขันเป็นทองสำริด ชามสังคโลก เคียวของคนสมัยโบราณ กำไรมือ กำไรเท้าเป็นทองสำริด ปัจจุบันได้หายไปเพราะถูกขโมยไปเมื่อหลายปีก่อน

 

 

5. พระพุทธเมตตานาคาเทพพิทักษ์  ตั้งอยู่บริเวณวัดสระน้ำใส หมู่ที่ 7  เป็นวัดที่สวยงามมากๆ แห่งหนึ่งในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีบันไดทางขึ้นให้เราไปกราบไหว้ พระพุทธเมตตานาคาเทพพิทักษ์ เป็นพระนาคปรกองค์ใหญ่ สีขาว ตั้งตระหง่านโดดเด่น โอบล้อมด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ และวิวธรรมชาติของผืนป่าสีเขียว ที่เราสามารถมองเห็นได้รอบทุกทิศทาง
                  
                              
           

การ
เดินทางไปเที่ยวชมโดยรถสองแถวมาจากปากช่อง-น้ำใสระยะทาง 20 กิโลเมตร หรืโดยรถยนต์ส่วนตัวไปตามถนนธนะรัชต์ระหว่างกิโลเมตรที่ 10-11 เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านไร่ (ผ่าน สภ.หมูสี) ผ่านบ้านท่าช้างระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร


6. ถ้ำค้างคาว ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 10 บ้านหนองกรวด พื้นที่ตำบลโป่งตาลองมีลักษณะเป็นภูเขาที่มีป่าหนาทึบและมีสัตว์ป่าที่เข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก
     โดยเฉพาะค้า
งคาวเข้ามาอาศัยอยู่มากมายหลายพันธุ์ ต่อมามีชาวบ้านเข้ามาสร้างวัดอยู่ที่
     หน้าถ้ำแล
ะได้บูรณะให้มีความเจริญขึ้นมาเรื่อยๆ ภายในถ้ำมีลักษณะกว้างโล่งแต่มืดมาก
     ไม่สามารถเข้าไปในถ้ำได้ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่นักท่อง
เที่ยวนิยมมาเที่ยวชมกันมาก โดย
     เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศส่วนมากนิยมเดินทางโดยรถรับจ้าง สองแถวเนื่อง
     จากทางเข้ายังเป็นถนนลูกรัง

 



 

7. วัดมกุฏคีรีวัน ดำเนินการสร้างโดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระชินวงศ์ (ประจวบ กันตาจาโร) อดีตอธิการบดีรูปที่ 3 ของมหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัย เมื่อดำรงตำแหน่งอธิการบดี สมเด็จพระชินวงศ์เห็นว่ามหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัยผลิตบัณทิตทั้งปริญญาตรี โท และเอก เป็นจำนวนมากในแต่ละปีแต่ยังไม่มีสถานที่สำหรับการฝึกปฏิบัติให้กับนักศึกษาผู้จบหลักสูตรอยู่เป็นรูปธรรมในฐานะเป็นประธานอำนวยการจัดสร้างวัดมกุฏคีรีวัน ท่านจึงได้ดำริและสร้างสถานที่ฝึกปฏิบัติกรรมฐานสำหรับนักศึกษามหามกุฏคีรีวัน และได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจจัดหางบประมาณจำนวนมากเพื่อก่อสร้างวัดแห่งนี้รวมถึงการก่อสร้างมหาเจดีย์มกุฏคีรีวันไปพร้อมกันทำให้การก่อสร้างดำเนินการต่อเนื่องต่อมาได้มอบให้พระญาณดิลก (แดง) ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดให้ดำเนินสนองงานต่อมาแต่เจ้าพระคุณสมเด็จพระชินวงศ์ได้สละสังขารไปเมื่อต้นปี 2550 พระญาณดิลกพร้อมด้วยคณะกรรมการได้ดำเนิน  
   การก่อสร้างพระมหาเจดีย์มกุฏคีรีวันให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ต่อไป

          ปัจจุบันวัดมกุฏคีรีวันเป็นสถานที่ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของเจ้า
   พระคุณสมเด็จทุกประการ เช่น เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติกรรมฐานระดับเข็มข้นแก่
   นักศึกษาของมหามกุฏคีรีวันประจำทุกปี เป็นสถานที่ฝึกกรรมฐานแก่พระธรรม
   ทูตไปต่างประเทศ
(ธรรมยุต) เป็นสถานที่สัมมนาฝึกอบรมของหน่วยงานต่างๆ
   ทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นสถานที่ฝึกอบรมสามเณรฤดูร้อนประจำปี เป็นสถานที่
   บำเพ็ญประโยชน์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและ
   สิ่งแวดล้อม พระญาณดิลกเจ้าอาวาสวัดมกุฏคีรีวันได้ดำเนินการสนองงาน
   เจ้าสมเด็จอย่างดีโดยเฉพาะก่อสร้างพระมหาเจดีย์มกุฎคีรีวันซึ่งตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมประติมากรรมและศิลปกรรมตามแนวของพระพุทธศาสนาได้กำหนดให้มีพิธีเททองพระพุทธรูปเพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วิหารโดยคัดเลือกพระพุทธรูปทำจาก พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ศิลปะสมัยปาละ ประเทศอินเดียและสมัยคันธาระประเทศปากีสถานพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยจีวรลายดอกศิลปแบบเนปาล พระพุทธรูปนั่งปางสมาธิเพชร ศิลปะแบบทิเบต พระพุทธรูปนั่งศิลปะแบบจีน ศิลปะแบบญี่ปุ่นและศิลปแบบไต้หวันพระพุทธรูปปางสมาธิมีบาตร ศิลปะแบบมองโกเลีย พระพุทธรูปนั่งหินอ่อนหยกพม่า ศิลปแบบพม่าพระพุทธรูปนั่งปางซุ้นเรือนแก้วศิลปปากาล ประเทศพม่าและศิลปเขมรชัยวรมันประเทศเขมรและพระพุทธรูปนั่งศิลปศรีวิชัยประเทศอินโดนีเชียและศิลปเวียดนามซึ่งล้วนแต่เป็นพุทธศิลป์ชั้นเยี่ยมและทรงคุณค่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาพุทธศิลปและประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาแต่ละยุคแต่ละสมัยแต่ละประเทศที่พระพุทธศาสนาได้แผ่ขยายประดิษฐานไว้เป็นรองรายให้ศึกษาค้นคว้าและได้ทราบถึงอานุภาพของพระสัทธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทีมีอิทธิพลต่อสังคมชุมชนศิลปะและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน


ที่พักสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวในตำบลโป่งตาลอง

โรงแรม, รีสอร์ท, ร้านอาหาร 18 แห่ง

1. หมู่ที่ 1 บ้านไร่ตับเต่าฟาร์มสเตย์  ติดต่อ คุณนก โทร 089 - 833-7070 E - Mail : nok.tubtao@hotmail.com

2. หมูที่ 2 บ้านสวนภูชารีฟ โฮมสเตย์ ติดต่อ โทร 081-806-8587 www.phuchareefhomestay.com

3. หมู่ที่ 2 ฮัก สเตย์ชั่น ติดต่อ โทร 080-006-0014,  080-008-4845

4. หมู่ที่ 3 บ้านเรือ รีสอร์ท ติดต่อ คุณเตือนใจ (ผู้ดูแล) โทร 085-414-6803

5. หมู่ที่ 3 บ้านเพียงดาว  ติดต่อ โทร 080-053-5193

6. หมู่ที่ 4 บ้านไร่เทียนอุดม ติดต่อ โทร 081-925-9933, 081-644-9749

7. หมู่ที่ 5 บ้าน ณ เขาใหญ่ ติดต่อ โทร 084-945-9161, 085-914-4546, 084-454-1942  Email: baan.na.khaoyai@gmail.com

8. หมู่ที่ 5 บ้านไร่สุจิรา ติดต่อ โทร 084-944-4829, 089-020-1190  http://www.baanraisujira.com/aboutus.php

9. หมู่ที่ 5 บ้านใกล้ฟ้า ติดต่อ โทร 085-365-4142,  086-020-3030  http://www.baanklaifah.com/

10. หมู่ที่ 5 บ้านไร่รังหอม ติดต่อ โทร  086-583-6040  facebook: บ้านไร่รังหอม

11. หมู่ที่ 6 บ้านนางเบญจมาศ อ่อนสีดา

12. หมู่ที่ 6 บ้านแสงแก้วสุข รีสอร์ท  ติดต่อ โทร 081-689-447-6, 081-916-865-1 Facebook : BansaengKeawSuk

13. หมู่ที่ 7 บ้านเราเขาใหญ่ 

14. หมู่ที่ 7 เรือนจุฑามาศ เขาใหญ่ รีสอร์ท  ติดต่อ โทร 089-668-0195

15. หมู่ที่ 7 ค่ายลูกเสือพญาเย็น ติดต่อ คุณสิริลักษณ์  โทร 044-297-153, 089-284-3929

16. หมู่ที่ 11 วาลาตา เขาใหญ่ รีสอร์ท ติดต่อ โทร 044-983-261,  088-709-9675

17. หมู่ที่ 11 นายคนึง เกลี้ยงจิตแผ้ว

18. หมู่ที่ 11 นายสนั่น เกลี้ยงจิตแผ้ว

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ตำบลโป่งตาลอง ได้แก่

1. กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตมะม่วงปลอดสารพิษ เพื่อส่งออกอำเภอปากช่องตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านหนองซ่อมตำบลโป่งตาลองในพื้นที่จำนวน 400 ไร่ ทำการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งประเทศญี่ปุ่น จีน และไต้หวันและได้ทำแปลงตัวอย่างแปลงสาธิตแปลงเปรียบเทียบให้เกษตรกรทั้งในหมู่บ้าน หมู่บ้านใกล้เคียงในอำเภอ ต่างจังหวัดและหน่วยงานต่างๆตลอดต่างประเทศ เช่นประเทศลาวเข้ามาศึกษาดูงาน

2. กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตมะม่วงปลอดสารพิษเพื่อส่งออก ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านโป่งตาลองและหมู่ที่ 7 บ้านสระน้ำใสเป็นกลุ่มปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออกต่างประเทศและภายในประเทศซึ่งเป็นที่ได้รับความสนใจศึกษาดูงานจากหน่วยงานต่างๆ ปีละหลายคณะ

3. กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตพุทรานมสด ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 บ้านมอตะเคียน เริ่มปลูกเมื่อปี 2548 โดยการสนับสนุนจาก สปก. ร่วมกับบริษัทกรีนเฟรช ให้คำแนะนำและให้เกษตรกรจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและให้การสนับสนุนเงินแก่เกษตรกรนำมาลงทุน เพื่อให้เกษตรกรนำไปจัดซื้อปุ๋ย ต้นพันธุ์พุทรา และยา โดยนำพันธุ์พุทรามาจากอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อผลผลิตออกทางบริษัทจะรับซื้อและส่งขายไปยังประเทศจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกพุทรานมสดประมาณ 27 ไร่ พุทราจะให้ผลผลิตในช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม โดยเริ่มแรกจะมีบริษัทมารับเหมาและประกันราคาให้แก่เกษตรกรโดยคัดผลผลิตของพุทราในระดับเกรด A ส่วนเกรดระดับต่ำลงมาก็นำมาแปรรูปเป็นพุทรากวนหรืออย่างอื่น ในปี 2549 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน กลุ่มได้บริการจัดการกันเอง นำมาขายเองและขายดีมากเป็นที่ต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เพราะรสชาดของพุทราจะมีรสหวานกรอบทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมีหน่วยงานต่างๆ สนใจเข้าศึกษาดูงาน ปัจจุบันผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด รายได้จากการขายพุทราเฉลี่ยขาดได้กิโลกรัมละ 50 – 60 บาท